ตกแต่งปากช่องคลอด แก้ปัญหาฝีเย็บฉีกขาด

ตกแต่งปากช่องคลอด หรือ การผ่าตัดตกแต่งฝีเย็บ คือวิธีการผ่าตัดที่ช่วยตกแต่งผิวหนัง และกล้ามเนื้อบริเวณปากช่องคลอดหรือฝีเย็บที่ฉีกขาด –(ฝีเย็บ คือ พื้นที่ที่มองเห็นระหว่างช่องการผ่าตัดตกแต่งปากช่องคลอด (ฝีเย็บ)คลอดและทวารหนัก)

เพื่อให้เกิดความสวยงามปากช่องคลอดหรือหรือฝีเย็บ และทำให้ปากช่องคลอดกระชับขึ้น ทำให้เกิดความรู้สึกแนบชิดได้มากขึ้นตรงปากช่องคลอด จึงทำให้ความรู้สึกในการมีเพศสัมพันธ์ดีขึ้นกว่าเดิม ส่วนใหญ่การตกแต่งฝีเย็บมักทําร่วมกับ การผ่าตัดตกแต่งช่องคลอด

ปัจจุบันมีการนำ เลเซอร์ มาใช้ในการทำผ่าตัดตกแต่งฝีเย็บ ซึ่งส่งผลให้การผ่าตัดมีความแม่นยำและเที่ยงตรงมากยิ่งขึ้น เนื่องจากเลเซอร์สามารถควบคุมความความลึกของแผลผ่าตัดได้ ทําให้ช่วยลดการเสียเลือด รวมทั้งช่วยลดการทำลายเส้นเลือดที่มาเลี้ยงแผลผ่าตัด และเนื้อเยื่อที่อยู่ข้างใต้แผลผ่าตัด ส่งผลดีต่อกระบวนการหายของแผลผ่าตัด เมื่อเทียบกับการทำผ่าตัดแบบดั้งเดิม

1) ข้อมูลที่ควรทราบและการเตรียมตัว ก่อนการผ่าตัด ตกแต่งปากช่องคลอด (ฝีเย็บ)

  • ซึ่งสาเหตุที่ทําให้มีการฉีกขาดของปากช่องคลอดหรือฝีเย็บมากที่สุด ส่วนใหญ่เกิดจากการตัด เพื่อขยายปากช่องคลอดในการคลอดบุตร ส่งผลให้ปากช่องคลอดเปิดกว้างกว่าปกติ
  • อย่างไรก็ตามการฉีกขาดของปากช่องคลอดหรือฝีเย็บ อาจเกิดขึ้นได้จากอุบัติเหตุ หรือเกิดจากการมีเพศสัมพันธ์ สําหรับรอยย่นปากช่องคลอดหรือรอยย่นที่ฝีเย็บ อาจเกิดจากสาเหตุที่กล่าวมาแล้วข้างต้น หรือเกิดขึ้นเองเมื่ออายุมากขึ้น
  • การผ่าตัด ตกแต่งปากช่องคลอด จะไม่ลงลึกลงไปในช่องคลอด แต่ตั้งใจที่จะฟื้นฟูส่วนที่สึกหรอจากการให้กำเนิดบุตร โดยการเย็บเฉพาะตรงปากช่องคลอด (ความลึกไม่เกิน 5 เซนติเมตร)
  • ทำให้ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางของปากช่องคลอดลดลงหรือแคบลง โดยการตัดผิวหนัง และเนื้อเยื่อส่วนเกินที่เป็นรอยย่นออก แล้วเย็บซ่อมกล้ามเนื้อและเนื้อเยื่อที่อยู่ใกล้เคียงไปพร้อมกัน  
  • ในช่วงของการปรึกษา ผู้ต้องการเข้ารับการผ่าตัดจะได้พบกับ แพทย์หญิง วิทัศศนา เพื่อซักประวัติและตรวจภายใน กรณีที่มีการติดเชื้ออยู่ในช่องคลอด เช่น เชื้อรา หรือเชื้อแบคทีเรีย ควรรักษาภาวะติดเชื้อในช่องคลอดให้หายก่อนทำการผ่าตัด
  • หลังการตรวจภายใน แพทย์จะอธิบาย ข้อมูลเกี่ยวกับการผ่าตัด, การให้ยาระงับความรู้สึก, ประโยชน์หรือผลลัพธ์ที่จะได้รับจากการทำผ่าตัด, ทางเลือกในการรักษา, การพักฟื้นหลังการผ่าตัด, ความเสี่ยงและภาวะแทรกซ้อนของการผ่าตัด รวมทั้งจะมีการแจ้ง ราคาค่าผ่าตัด
  • การผ่าตัดนี้ทำผ่าตัด โดยการฉีดยานอนหลับเข้าหลอดเลือดดําร่วมกับการฉีดยาชา ผู้ต้องการเข้ารับการผ่าตัดจึงต้องงดน้ำและอาหาร ก่อนทำการผ่าตัดอย่างน้อย 6 ชั่วโมง เพื่อลดความเสี่ยงในการสำลักเศษอาหาร ในระหว่างหรือหลังจากการทำผ่าตัด 

การผ่าตัด ตกแต่งปากช่องคลอด มีข้อจำกัด และไม่สามารถรับประกันผลความสำเร็จและความพึงพอใจได้ทั้งหมด 

  • ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับโครงสร้างพื้นฐานเดิมของผู้เข้ารับการผ่าตัด ได้แก่ กรณีปากช่องคลอดมีแผลเป็นจากการคลอดก่อนหน้านี้ และยังขึ้นอยู่กับโรคประจำตัว เพราะโรคประจำตัวบางชนิด ส่งผลต่อกระบวนการหายของแผลผ่าตัด
  • รวมทั้งยังขึ้นอยู่กับการดูแลแผลผ่าตัดที่ถูกต้อง ในการป้องกันการเกิดภาวะแทรกซ้อนหลังการผ่าตัด ซึ่งเป็นเหตุสุดวิสัยเกินการควบคุมของแพทย์
  • อย่างไรก็ตามทั้งนี้อาจจะเกิดจากสาเหตุใด ๆ ก็ตาม ทําให้การผ่าตัดมีผลคลาดเคลื่อน หรือกรณีเป็นความต้องการของผู้เข้ารับการผ่าตัดที่ต้องการผ่าตัดแก้ไข เนื่องจากไม่พึงพอใจผลการผ่าตัดก็อาจทำได้ โดยการพิจารณาตามความเหมาะสมและความเป็นไปได้
  • ทั้งนี้ผู้เข้ารับการผ่าตัดและแพทย์ ควรจะปรึกษาร่วมกัน ซึ่งการผ่าตัดแก้ไขต่อเนื่องการผ่าตัด คุณต้องเสียค่าใช้จ่าย ค่ายา และค่าใช้จ่ายทางวิสัญญีตามจริง

ความเสี่ยงและภาวะแทรกซ้อน ของการผ่าตัด

  • เนื่องจากภาวะเลือดออกผิดปกติ ในระหว่างผ่าตัดหรือหลังการผ่าตัดได้ เพราะเป็นบริเวณที่มีเส้นเลือดค่อนข้างมาก อาจพบได้ประมาณน้อยกว่าร้อยละ 1
  • แต่เป็นภาวะแทรกซ้อนที่อันตราย จึงไม่ควรรับประทานยาในกลุ่มแอสไพริน หรือกลุ่มยาลดการแข็งตัวของเลือด 10-15 วัน ก่อนหรือหลังการผ่าตัด
  • การผ่าตัด ตกแต่งปากช่องคลอด มีความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะแผลแยกได้ค่อนข้างมาก เนื่องจากแผลผ่าตัดอยู่ในบริเวณที่จะได้รับผลกระทบจากการเคลื่อนไหว ผู้เข้ารับการผ่าตัดควรจะต้องหยุดทำงาน และงดกิจกรรมต่าง ๆ ที่เคยทำเป็นประจำในช่วง 2-3 วันแรกหลังการผ่าตัด
  • รวมทั้งในส่วนแพทย์ที่ทำผ่าตัดจำเป็นต้องมีความระมัดระวังในการผ่าตัด และมีเทคนิคการเย็บแผลผ่าตัดที่ดี ในการป้องกันการเกิดภาวะแผลแยก 
  • มีความเสี่ยงต่อการเกิดการอักเสบและการติดเชื้อของแผลผ่าตัด เนื่องจากแผลผ่าตัดอยู่ใกล้ทางเดินปัสสาวะและทางเดินอุจจาระ ซึ่งมีแบคทีเรียต่างๆ เป็นจำนวนมาก
  • ดังนั้นการป้องกันการติดเชื้อ โดยการฉีดยาปฏิชีวนะก่อนการผ่าตัด และการรับประทานยาปฏิชีวนะให้ครบหลังการผ่าตัดเป็นสิ่งสําคัญ

เมื่อพร้อมที่จะเข้ารับการผ่าตัด โปรดโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ เพื่อนัดวันผ่าตัด หากผู้ต้องการเข้ารับการผ่าตัด เผชิญกับสุขภาพที่เปลี่ยนแปลงไป เช่น เริ่มไม่สบาย, มีไข้ หรือมีประวัติการแพ้ยา กรุณาแจ้งเจ้าหน้าที่หรือแพทย์ก่อนการผ่าตัด

ใครที่ไม่แนะนำให้ทำการผ่าตัด และต้องปรึกษแพทย์ก่อนการผ่าตัด 

  • ไม่แนะนำให้ทำการผ่าตัด ในผู้ที่มีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง และในกรณีที่ไม่ได้แจ้งแฟนหรือคู่สมรส ทั้งนี้เพื่อป้องกันปัญหาความไม่เข้าใจกัน เนื่องจากต้องงดการมีเพศสัมพันธ์หลังการผ่าตัด
  • รวมทั้งผู้ต้องการเข้ารับการผ่าตัด ตกแต่งปากช่องคลอด ต้องไม่ตั้งครรภ์ แม้จะไม่เคยมีรายงานถึงผลเสียของการผ่าตัดต่อการตั้งครรภ์ และทารกในครรภ์ก็ตาม
  • ในกรณีที่ผู้ต้องการเข้ารับการผ่าตัดมีโรคประจำตัว ผู้ต้องการเข้ารับการผ่าตัดจำเป็นต้องได้รับการประเมินสุขภาพจากอายุรแพทย์ก่อน เพื่อดูว่าสามารถเข้ารับการผ่าตัดได้หรือไม่
  • ทั้งนี้อายุรแพทย์จะทำการซักประวัติ, ตรวจร่างกาย และตรวจเลือดจำเพาะโรค เพื่อการทดสอบทางห้องปฏิบัติการเพิ่มเติม ซึ่งจำเป็นในผู้ต้องการเข้ารับการผ่าตัดบางราย
  • ทั้งนี้ค่าใช้จ่ายในการปรึกษาอายุรแพทย์ และค่าทดสอบทางห้องปฏิบัติการในส่วนนี้ ต้องชำระเองเพิ่มเติมทั้งหมดตามราคาจริง 
  • หลังจากอายุรแพทย์ประเมินแล้วพบว่าสามารถเข้ารับการผ่าตัดได้ เจ้าหน้าที่จะนำผู้ที่ต้องการรับการผ่าตัดกลับมายัง ศูนย์จุดซ่อนเร้น เพื่อพบกับ แพทย์หญิง วิทัศศนา โปรดสอบถามข้อสงสัยเกี่ยวกับการผ่าตัด และคำแนะนำเกี่ยวกับการปฏิบัติตัวก่อนการผ่าตัด

2) ขั้นตอนก่อนการผ่าตัด ตกแต่งปากช่องคลอด (ฝีเย็บ)

  • ในกรณีคุณมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการผ่าตัด คุณจะได้พบกับ แพทย์หญิง วิทัศศนา เพื่อพูดคุยอีกครั้ง โปรดสอบถามข้อสงสัยและรายละเอียดอื่นๆ กรณีไม่แน่ใจหรือกังวลมาก เนื่องจากเหตุผลใดๆ ก็ตามเกี่ยวกับการผ่าตัด ควรเลื่อนการผ่าตัดไปก่อน
  • กรณีคุณไม่มีข้อสงสัยเกี่ยวกับการผ่าตัด รวมทั้งกรณีที่คุณมีโรคประจำตัว ซึ่งอายุรแพทย์ประเมินแล้ว พบว่าสามารถเข้ารับการผ่าตัดได้ คุณจะต้องกรอกเอกสารแสดงความยินยอมเข้ารับการผ่าตัด ซึ่งจะถือเป็นใบอนุญาต ให้ทางเจ้าหน้าที่และแพทย์สามารถทำการผ่าตัดคุณได้
  • จากนั้นพยาบาลจะให้คำแนะนำเกี่ยวกับการปฏิบัติตัวหลังการผ่าตัด รวมทั้งจะมีการตรวจทางห้องปฏิบัติการตามความเหมาะสม
  • หลังจากเสร็จขั้นตอนข้างต้น เจ้าหน้าที่จะนำคุณไปชำระค่าบริการทั้งหมดที่แคชเชียร์ กรณีต้องการฝากเครื่องประดับและของมีค่า รวมทั้งโทรศัพท์มือถือ ก็จะมีเจ้าหน้าที่รับฝากของ ซึ่งคุณสามารถรับของมีค่าทั้งหมดคืนได้ก่อนกลับบ้าน
  • หลังจากเสร็จสิ้นการเตรียมการเหล่านี้แล้ว เจ้าหน้าที่จะนำคุณ ไปที่ห้องเตรียมตัวก่อนเข้าห้องผ่าตัด ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ที่จะช่วยเหลือในการเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อใส่ชุดคลุมผ่าตัด และมอบสายรัดข้อมือสำหรับระบุตัวตน
  • จากนั้นเจ้าหน้าที่พยาบาลจะทำการตรวจสอบข้อมูลพื้นฐานต่าง ๆ ทั้งนี้คุณจะได้รับการฉีดยาปฏิชีวนะ ภายในหนึ่งชั่วโมงก่อนการทำผ่าตัด ทั้งนี้เพื่อป้องกันการติดเชื้อของแผลผ่าตัด
  • หลังจากนั้นวิสัญญีแพทย์จะทำการประเมินสุขภาพของคุณโดยรวมอีกครั้ง ทั้งนี้คุณจะได้รับทราบข้อมูล เกี่ยวกับการให้ยาระงับความรู้สึกขณะทำผ่าตัดจากวิสัญญีแพทย์ รวมทั้งการให้ยาระงับปวดหลังการผ่าตัด 

หลังจากเสร็จสิ้นการเตรียมการเหล่านี้แล้ว เจ้าหน้าที่ของห้องผ่าตัดจะนำผู้ต้องการเข้ารับการผ่าตัดไปยังห้องผ่าตัด ซึ่งคุณจะได้รับการดูแล โดยเจ้าหน้าที่พยาบาลประจำห้องผ่าตัดต่อไป

3) ขั้นตอนการผ่าตัด ตกแต่งปากช่องคลอด (ฝีเย็บ)

  • การผ่าตัดใช้เวลาประมาณ 45 นาที โดยการฉีดยานอนหลับทางหลอดเลือดดำ เมื่อผู้เข้ารับการผ่าตัดหลับ แพทย์จึงจะฉีดยาชาที่บริเวณที่จะทำการผ่าตัด คือบริเวณด้านหลังของผนังช่องคลอด
  • หลังการฉีดยาชา–ยาชาออกฤทธิ์–แพทย์จึงจะทําการผ่าตัดเลาะเอาผนังช่องคลอดด้านหลัง (ความลึกประมาณ 5 เซนติเมตร) และผิวหนังส่วนเกินบริเวณปากช่องคลอดทิ้ง ดังนั้นผนังช่องคลอดทางด้านหลังจะขาดออกจากกันเป็นรูปลิ่มหรือตัววีกลับหัว
  • หลังจากนั้นแพทย์จะนําขอบแผลทั้งสองข้างหรือขาของตัว V ทั้งสองข้างมาชิดกันใหม่–แล้วจะทําการเย็บขอบแผลให้ติดกันด้วยไหมละลายช้า โดยเริ่มที่ด้านแหลมของตัว V ที่อยู่ในช่องคลอดก่อน–โดยทําการเย็บทั้งหมด 2 หรือ 3 ชั้น แล้วแต่ความเหมาะสม เพื่อป้องกันการแยกของแผลผ่าตัด

ตกแต่งปากช่องคลอด

ก่อนผ่าตัดตกแต่งฝีเย็บ

หลัง ตกแต่งปากช่องคลอด

หลังผ่าตัดตกแต่งฝีเย็บ

 

หัวข้อน่าสนใจ โปรดคลิก

ต้องการดู รูป ก่อน และ หลังการผ่าตัด

คําถามบ่อยเกี่ยวกับ การผ่าตัด ตกแต่งปากช่องคลอด (ฝีเย็บ)

ภาวะแทรกซ้อนหลังตกแต่งปากช่องคลอด

O-Shot สำหรับผู้หญิง

 

 

4) ขั้นตอนหลังการผ่าตัด ตกแต่งปากช่องคลอด (ฝีเย็บ) 

  • ผู้เข้ารับการผ่าตัดจะได้รับการสังเกตอาการที่ห้องพักฟื้น 1-2 ชั่วโมง หลังจากนั้นเมื่อรู้สึกตัวดี, สัญญาณชีพปกติ, ตรวจแผลผ่าตัดแล้ว ไม่พบว่ามีเลือดออกจากแผลผ่าตัดมากผิดปกติ และสามารถปัสสาวะได้เอง รวมทั้งเมื่อมีการถามตอบ เกี่ยวกับการปฏิบัติตัวหลังการผ่าตัด ตกแต่งปากช่องคลอด –แล้วตอบคําถามได้ถูกต้อง–แพทย์จึงจะอนุญาตให้กลับบ้านได้
  • อาจมีอาการมึนงง, เวียนศีรษะ หรือคลื่นไส้อาเจียน จากการฉีดยานอนหลับ และเพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ ผู้เข้ารับการผ่าตัดไม่ควรขับขี่ยานพาหนะหลังการผ่าตัด
  • ในผู้เข้ารับการผ่าตัดบางราย ที่กังวลกับความเจ็บปวดหลังการผ่าตัดหรือพักอยู่ต่างจังหวัด แพทย์อาจจะแนะนําให้ผู้เข้ารับการผ่าตัดนอนพักโรงพยาบาล 1 คืน หลังเสร็จจากการผ่าตัด มีความจำเป็นที่ต้องใส่สายสวนปัสสาวะไว้ เพื่อป้องกันไม่ให้มีปัสสาวะคั่งค้าง อันเนื่องมาจากภาวะปัสสาวะลำบากหลังผ่าตัด
  • ซึ่งเกิดจากภาวะตึงตัวของกล้ามเนื้อ บริเวณรอบปากช่องคลอดหลังจากการผ่าตัดในระยะแรก หลังจากนั้นเมื่อภาวะตึงตัวของกล้ามเนื้อรอบปากช่องคลอดลดลง ผู้เข้ารับการผ่าตัดก็จะสามารถปัสสาวะได้เองตามปกติ 
  • ที่ตึกผู้ป่วยใน ผู้เข้ารับการผ่าตัดจะได้รับยาปฏิชีวนะ เพื่อป้องกันการติดเชื้อหลังการผ่าตัด, ยาแก้อักเสบ ที่ช่วยลดอาการปวดแผลผ่าตัด และยาพาราเซตามอล ช่วยแก้ปวด
  • กรณีที่ผู้เข้ารับการผ่าตัดมีอาการปวดแผลมาก อาการปวดไม่ดีขึ้นหลังการรับประทานยาแก้ปวด ผู้เข้ารับการผ่าตัดก็จะได้รับยาแก้ปวดชนิดฉีด เพื่อบรรเทาอาการปวด
  • ในวันรุ่งขึ้นผู้เข้ารับการผ่าตัดจะได้รับการถอดสายสวนปัสสาวะ หลังจากนั้นถ้าสามารถปัสสาวะได้เอง แพทย์หญิง วิทัศศนา จึงจะอนุญาตให้กลับบ้านได้

โปรดทราบว่า ต่อให้แพทย์ทําการผ่าตัด–เย็บแผลผ่าตัดอย่างระมัดระวังเท่าใดก็ไม่มีประโยชน์ ถ้าแผลผ่าตัดเกิดการอักเสบและติดเชื้อ ผู้เข้ารับการผ่าตัด ตกแต่งปากช่องคลอด หรือ ผ่าตัดตกแต่งฝีเย็บ ต้องให้ความร่วมมือและปฏิบัติตามคําแนะนําหลังการผ่าตัดโดยเคร่งครัด

5) การปฏิบัติตัวและดูแลหลังการผ่าตัด ตกแต่งปากช่องคลอด (ฝีเย็บ)

  • เมื่อกลับบ้าน ผู้เข้ารับการผ่าตัดควรรับประทานยาตามที่แพทย์สั่ง โดยเฉพาะยาปฏิชีวนะ ควรรับประทานให้ครบทั้งหมด ในระยะ 1-2 วันแรกหลังการผ่าตัด ผู้เข้ารับการผ่าตัดไม่ควรอาบน้ำ เพื่อป้องกันการติดเชื้อของแผลผ่าตัด อาจใช้การเช็ดตัวไปก่อน 
  • ผู้เข้ารับการผ่าตัด สามารถรับประทานอาหารได้ทุกชนิดหลังการผ่าตัด แต่ควรยกเว้นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์, ของหมักดองและควรงดสูบบุหรี่ อย่างน้อย 15 วันหลังการผ่าตัด
  • หลังการผ่าตัด 1-2 วัน ผู้เข้ารับการผ่าตัดสามารถอาบน้ำได้ตามปกติ ผู้เข้ารับการผ่าตัดควรทำความสะอาดแผลผ่าตัด ที่อยู่บริเวณปากช่องคลอด ด้วยการฟอกสบู่ขณะอาบน้ำ ในตอนเช้าและ/หรือก่อนนอนทุกครั้ง
  • ไม่ควรพยายามทำความสะอาดในช่องคลอด โดยการล้วงเข้าไปในช่องคลอด หรือพยายามฉีดน้ำยาฆ่าเชื้อใส่เข้าไปในช่องคลอด
  • ในระยะ 2-3 วันแรกหลังผ่าตัด ผู้เข้ารับการผ่าตัดอาจจะมีความรู้สึกปวดเบ่ง คล้ายอยากถ่ายอุจจาระตลอดเวลา เนื่องจากมีการเย็บบริเวณส่วนที่กั้นระหว่างปากช่องคลอดกับทวารหนัก ที่มีหูรูดทวารหนักอยู่
  • ดังนั้นผู้เข้ารับการผ่าตัดควรนอนพัก, ควรหยุดทำงาน และหลีกเลี่ยงการเดินหรือการขึ้นลงบันได เพื่อลดความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อน เนื่องจากภาวะแผลแยกหลังการผ่าตัดได้ รวมทั้งควรหลีกเลี่ยงการเบ่งถ่ายอุจจาระ เนื่องจากภาวะท้องผูก โดยการรับประทานยาระบาย 

อาการข้างเคียง หลังผ่าตัด ตกแต่งปากช่องคลอด

  • อาจมีเลือดสีแดงจางๆ ออกจากช่องคลอด ในช่วง 1-2 สัปดาห์แรกหลังการผ่าตัด ควรใส่ผ้าอนามัยเพื่อสังเกตปริมาณเลือดที่ออกจากช่องคลอด กรณีผู้เข้ารับการผ่าตัดมีเลือดออกมากชุ่มผ้าอนามัย หรือมีเลือดออกเป็นก้อนสีแดงสด กรุณาโทรติดต่อโรงพยาบาลทันที 
  • ในช่วง 2 สัปดาห์แรกหลังผ่าตัด ควรพยายามหลีกเลี่ยงความอับชื้นบริเวณแผลผ่าตัดเพื่อช่วยให้แผลแห้งและหายเร็วขึ้น
  • สำหรับการทำความสะอาดบริเวณปากช่องคลอด หลังการถ่ายปัสสาวะ สามารถทำได้โดยการซับด้วยทิชชูเปียก (Sanitary Wipes) และหลังการถ่ายอุจจาระ โดยการล้างผ่านน้ำเปล่าแล้วซับให้แห้ง 
  • หลังการผ่าตัด อาจมีตกขาวสีเหลืองเข้ม หรือตกขาวมีสีคล้ายหนอง เนื่องจากภายในช่องคลอดจะเต็มไปด้วยสารคัดหลั่งและแบคทีเรียต่างๆ ทําให้เกิดปฏิกิริยาต่อเนื้อเยื่อที่ผ่าตัดและไหมที่เย็บแผลผ่าตัด
  • ทั้งนี้ต้องใช้เวลานาน 6-8 สัปดาห์ แผลที่ผ่าตัดจึงจะติดดีและไหมจะละลายหมด ในกรณีตกขาวมีกลิ่นเหม็น ผู้เข้ารับการผ่าตัดอาจจำเป็นต้องได้รับยารับประทานเพิ่มเติม
  • ผู้เข้ารับการผ่าตัดอาจมีตกขาวสีขาวปนเขียว และมีอาการคันในช่องคลอดมากกว่าปกติหลังการผ่าตัด เนื่องจากเชื้อราภายในช่องคลอด ซึ่งเกิดตามหลังการรับประทานยาปฏิชีวนะ
  • ทั้งนี้โดยทั่วไปแพทย์จะจัดยาฆ่าเชื้อราให้รับประทาน หลังหยุดยาปฏิชีวนะ 1 สัปดาห์ หรือให้ยาเหน็บช่องคลอดฆ่าเชื้อรา เมื่อแผลผ่าตัดหายดีแล้ว หรือหลังการผ่าตัด 6-8 สัปดาห์

 

หัวข้อน่าสนใจ โปรดคลิก

ปัญหาทั่วไปของ อวัยวะเพศ ภายนอกของ ผู้หญิง

ภาวะแทรกซ้อน หลังการผ่าตัดตกแต่งปากช่องคลอด หรือตกแต่งฝีเย็บ

 

 

วันนัดหลังการผ่าตัด ครั้งที่ 1

  • ควรมาพบแพทย์ตามนัด ทั้งนี้แพทย์หญิง วิทัศศนา จะนัดตรวจแผลผ่าตัดครั้งแรกหลังการผ่าตัด 1-2 สัปดาห์ รวมทั้งให้คำแนะนำในการดูแลแผลผ่าตัด และให้การตรวจรักษา ในกรณีที่มีภาวะแทรกซ้อนหลังการผ่าตัด 

การพักฟื้นหลังการผ่าตัด 

  • ในช่วง 2 สัปดาห์แรกหลังการผ่าตัด ตกแต่งปากช่องคลอด บริเวณที่ทำการผ่าตัดยังมีความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อนได้ค่อนข้างมาก ดังนั้นผู้เข้ารับการผ่าตัดควรจะค่อย ๆ เริ่มกลับมาทำกิจกรรมทางกายภาพต่าง ๆ ที่ต้องใช้กำลังได้เล็กน้อยและยกของเบา ๆ ได้ แต่ควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมทางกายภาพที่ต้องเดินมาก ๆ และการขึ้นลงบันไดบ่อย ๆ
  • บริเวณที่ทำการผ่าตัดอาจจะยังคงเสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อน ในช่วงหลังสัปดาห์ที่ 2 จนถึงสัปดาห์ที่ 4 หลังการผ่าตัด อย่างไรก็ตามผู้เข้ารับการผ่าตัด สามารถทำกิจกรรมทางกายภาพต่าง ๆ ที่ต้องใช้กำลังปานกลางได้พอควร และควรงดการออกกําลังกายทุกชนิด
  • ในช่วงหลังสัปดาห์ที่ 4 จนถึงสัปดาห์ที่ 6 หลังการผ่าตัด ผู้เข้ารับการผ่าตัดสามารถทำกิจกรรมต่างๆ ทางกายภาพที่ต้องใช้กำลังปานกลางได้มากขึ้น และสามารถออกกำลังกายที่ใช้แรงของลำตัวช่วงบนได้
  • แต่ควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมทางกายภาพ ที่ต้องใช้กำลังกล้ามเนื้อในอุ้งเชิงกราน ที่ส่งผลกระทบต่อแผลผ่าตัด เช่น การวิ่งออกกำลังกายหรือการเดินเร็ว, การแช่น้ำอุ่นในอ่างอาบน้ำ, การว่ายน้ำ, การออกกําลังกายโดยการยกนํ้าหนัก, การขี่จักรยาน, การเล่นโยคะและการซิทอัพ รวมทั้งควรงดการมีเพศสัมพันธ์เป็นเวลาอย่างน้อย 6-8 สัปดาห์

วันนัดหลังการผ่าตัด ครั้งที่ 2

  • โดยทั่วไปจะมีการนัดตรวจแผลผ่าตัด ครั้งที่ 2 หลังการผ่าตัด 6-8 สัปดาห์ เพื่อติดตามผลลัพธ์หลังการผ่าตัด รวมทั้งให้คําแนะนําก่อนการเริ่มมีเพศสัมพันธ์ 
  • ไหมที่ใช้เย็บแผลผ่าตัด เป็นไหมที่ละลายช้าภายใน 6-8 สัปดาห์ แต่พบว่าในผู้เข้ารับการผ่าตัดบางราย อาจใช้เวลานานกว่า 6-8 สัปดาห์ ไหมจึงจะละลายหมด ทำให้เกิดอาการระคายเคือง ในผู้เข้ารับการผ่าตัดที่มีอาการคัน หรืออาการระคายเคืองมาก แนะนำให้รับประทานยาแก้แพ้ เพื่อช่วยบรรเทาอาการคัน 

ราคาค่าผ่าตัด ตกแต่งฝีเย็บ

  • ราคาผ่าตัด ราคาเหมาจ่าย 39,000 บาท รวมค่าบริการวิสัญญีแพทย์ และค่ายากลับบ้าน 
  • ราคาผ่าตัดเหมาจ่ายนี้ ไม่รวมการตรวจสอบทางเคมีจำเพาะ และค่าปรึกษาแพทย์ทางอายุรกรรม ซึ่งจำเป็นในผู้เข้ารับการผ่าตัดบางราย ที่มีโรคประจำตัว และไม่รวมถึงค่าใช้จ่ายกรณีที่มีการผ่าตัดแก้ไข เพื่อให้ผู้เข้ารับการผ่าตัดพอใจผลลัพธ์ของการผ่าตัดตามที่ต้องการ

 

สรุป

ในกรณีที่หลังการผ่าตัดตกแต่งฝีเย็บ มีภาวะแทรกซ้อน เช่น มีเลือดออกมากผิดปกติจากแผลผ่าตัด, แผลผ่าตัดแยก หรือการเกิดรูรั่วระหว่างลําไส้ตรงกับปากช่องคลอด ผู้เข้ารับการผ่าตัดจะได้รับการดูแลรักษาต่อเนื่อง จนกว่าภาวะดังกล่าวจะดีขึ้น โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ยกเว้นแต่ในกรณีที่ภาวะแทรกซ้อน เกิดจากการปฏิบัติตัวไม่ถูกต้อง หรือมีเพศสัมพันธ์ก่อนแพทย์อนุญาต ผู้เข้ารับการผ่าตัดต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมเองทั้งหมด ไม่ว่าจะรักษาเพิ่มเติมที่โรงพยาบาลใดก็ตาม

ข้ามไปยังทูลบาร์